คลองดำเนินสะดวก เป็นนามพระราชทานจากรัชกาลที่ 5 เป็นคลองที่ขุดด้วยแรงงานคนซึ่งขุดได้ตรงและยาวที่สุดในประเทศ จากพระราชดำริของรัชกาลที่ 4 ที่ทรงพระประสงค์ให้ขุดคลองเชื่อมต่อระหว่างแม่น้ำแม่กลองและแม่น้ำท่าจีน เพื่อประโยชน์ในการคมนาคมและการค้าขาย คลองดำเนินสะดวก ใช้เวลาในการขุด ใช้เวลาขุด 2ปีเศษ จากปลายรัชสมัยรัชกาลที่ 4 แล้วเสร็จต้นรัชกาลที่ 5 มีความยาวประมาณ 32 กิโลเมตรมีซอยน้อยแยกออกไปอีกประมาณ 200 คลอง ตลาดน้ำดำเนินสะดวก หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าตลาดน้ำคลองต้นเข็ม สักประมาณ 30 ปีที่แล้ว ตลาดน้ำดำเนินสะดวกอยู่ที่คลองลัดพลี หนาแน่นช่วงปากคลองต่อกับคลองดำเนินสะดวก ซึ่งอยู่ตรงข้ามตลาดน้ำปัจจุบัน(ฝั่งตรงตลาดน้ำดำเนินสะดวก) มีเรือพายแท้ ๆ จากชาวสวนแน่นขนด สามารถเดินข้ามคลองได้โดยเหยียบไปบนเรือเหล่านั้น ปี 2514-2516 ตลาดน้ำคลองลัดพลีเป็นช่วงที่มีความเจริญมาก มีการค้าขายกับอย่างสนุกสนาน โดยมีนักท่องเที่ยวแต่ชาวต่างชาติ จนมีนายทุนได้ทำการขุดคลองเทียมขึ้นมา ระหว่างคลองลัดพลี และคลองดำเนินสะดวก หวังที่จะทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่ลาดน้ำที่แท้จริงหายไป (20กว่าปีมาแล้ว) ซึ่งตลาดน้ำในปัจจุบันนี้ เป้นเพียงการสตาฟตลาดน้ำในอตีตให้คงอยู่เท่านั้น อย่างไรก็ตามตลาดน้ำดำเนินที่เก่าแก่กว่าร้อยปี ยังคงมีมนต์ขลังเป็นตลาดน้ำที่ยังคงเป็นของจริง ยังมีจากแม่ค้าที่นำผลไม้จากสวนมาขาย หรือบางครั้งอาจรับผลไม้มาจากรถบรรทุกที่อื่นขาย เป็นอารายสุดท้ายที่ควรไปชม
ถ้ำเขาบิน
ถ้ำเขาบินตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอเมืองราชบุรีที่เป็นรอยต่อกับท้องที่อำเภอจอมบึง โดยอยู่ห่างจากตัวจังหวัดราชบุรีไปตามถนนสายราชบุรี – จอมบึง ประมาณ ๒๐ กิโลเมตร จากหลักฐานทางคำบอกเล่าถ้ำแห่งนี้มีการค้นพบเมื่อประมาณ ๕๐ ปีมาแล้ว โดยชาวบ้านที่ประกอบอาชีพทำไร่หาของป่าอยู่ในบริเวณนั้นก่อนที่จะมีการประกาศให้เป็นเขตป่าสงวนของชาติดังเช่นปัจจุบัน ในช่วงแรกที่มีการค้นพบนั้นบริเวณถ้ำยังรกเรื้อด้วยป่าชัฏและภายในถ้ำยังไม่ได้มีการติดตั้งระบบไฟฟ้าเพื่อให้แสงสว่างสะดวกแก่การเดินเที่ยวชม จึงทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมในแต่ละวันในช่วงนั้นไม่มากนัก จนกระทั่งในปลายปี พ.ศ. ๒๕๒๕ จึงได้มีการระเบิดปากถ้ำเพื่อให้สามารถเข้าออกได้สะดวก ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๒๖ – ๒๕๒๗ จึงได้มีการทำถนนลาดยางไปจนถึงหน้าถ้ำและในปี พ.ศ. ๒๕๒๘ จึงได้มีการติดตั้งระบบไฟฟ้า เพื่อให้แสงสว่าง การใช้ตะเกียงจุดเข้าไปชมภายในถ้ำ ครั้นต่อมาในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๓๕ กรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้ยกพื้นที่ที่ตั้งของถ้ำและบริเวณใกล้เคียงให้จังหวัดราชบุรีโดยสำนักงานจังหวัดราชบุรีเป็นผู้ดูแลรักษา ซึ่งจังหวัดราชบุรีโดยสำนักงานจังหวัดราชบุรีก็ได้ประสานงานของบประมาณจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยดำเนินการพัฒนาระบบไฟฟ้าส่องสว่างภายในถ้ำแลสภาพภูมิทัศน์โดยรอบถ้ำดังที่ปรากฏในปัจจุบันแล้วเสร็จในปี พ.ศ. ๒๕๓๖ ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าชมกันวันละหลายร้อยคน
ประวัติที่มาของชื่อเรียกของถ้ำเขาบินนั้น มีผู้ให้คำสันนิษฐานเป็นสองความเห็นด้วยกัน ความเห็นทางแรกเป็นเรื่องเล่าว่า มีพ่อค้าชาวจีนแล่นเรือสำเภาใหญ่ผ่านมา แล้วเรือเกิดชนหัวเขาด้านหนึ่งบิ่นไป ชื่อถ้ำเขาบินจึงคงเรียกเพี้ยนมาจากคำว่า “เขาบิ่น” ส่วนความเห็นที่สองเห็นว่าคงมาจากห้องหนึ่งภายในถ้ำมีหินย้อยสีขาวหม่นยื่นออกมาเหมือนนกเขากำลังกระพือปีกเหมือนจะบิน
ที่ตั้งของถ้ำเขาบินอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ ๒๗๒ เมตร ปากถ้ำสูงจากพื้นดินประมาณ ๕ เมตร เนื้อที่ภายในถ้ำมีประมาณ ๕ ไร่เศษ จากปากถ้ำถึงบริเวณลึกสุดมีความยาวประมาณ ๕๐๐ เมตร บริเวณภายในถ้ำสามารถแบ่งออกเป็นห้องหรือคูหาใหญ่ ๆ ได้ทั้งหมด ๘ ห้อง ซึ่งแต่ละห้องได้มีการตั้งชื่อตามสภาพของหินงอกหินย้อยให้คล้องจองกันตามลำดับ โดยห้องแรกเป็นบริเวณกว้างที่นักท่องเที่ยวมารวมกันเมื่อก้าวเข้ามาจากปากถ้ำซึ่งประดับด้วยหินงอกหินย้อยรูปทรงต่าง ๆ กันได้ตั้งชื่อว่า “โถงอาคันตุกะ” ห้องที่สองเป็นบริเวณที่มีหินงอกหินย้อยบริเวณนี้มีหินงอกหินย้อยรูปทรงคล้ายริ้วของผ้าม่านรูปกลีบมะเฟืองงดงามจึงมีการตั้งชื่อว่า “ศิวสถาน” ห้องที่สองเป็นบริเวณที่มีธารน้ำไหลผ่านจนทำให้หินงอกหินย้อยบริเวณนี้มีลักษณะคล้ายน้ำตกและลำธารก็ได้มีการตั้งชื่อว่า “ธารอโนดาต” ห้องที่สี่อันเป็นที่มาของชื่อถ้ำเขาบินมีลักษณะของหินงอกหินย้อยคล้ายนกกำลังบิน มีการตั้งชื่อว่า “สกุณชาติคูหา” ห้องที่ห้าหินงอกหินย้อยมีลักษณะคล้ายเวทีที่มีฉากหลังท่ามกลางบรรยากาศโอ่อ่าราวกับห้องประชุมหรือสโมสร จึงมีการตั้งชื่อว่า “เทวสภาสโมสร” ส่วนห้องที่หกที่อยู่ในบริเวณท้ายสุดของถ้ำ และมีบ่อน้ำแร่ขนาดเล็กที่น้ำไม่เคยเหือดแห้งจนชาวบ้านพากันเชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่ภายในมีการตั้งชื่อว่า “กินนรทัศนา” ห้องที่เจ็ดเป็นบริเวณที่หินงอกหินย้อยมีลักษณะคล้ายกับต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวนมากจึงได้ตั้งชื่อว่า “พฤกษาหิมพานต์” และห้องสุดท้ายเนื่องจากหินงอกหินย้อยมีลักษณะรูปทรงคล้ายเหล่าฤๅษี งู และดอกไม้นานาชนิด ก็ได้ตั้งชื่อว่า “อุทยานทวยเทพ” ตามลำดับ
ถ้ำค้างคาวเขาช่องพรานค้างคาวเขาช่องพราน ตั้งอยู่ใกล้ตัวอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี บริเวณเขาช่องพรานซึ่งมีลักษณะเป็น เขาหิน ปูนที่สวยงาม อยู่ห่างจากวัด ขนอน ไปทางตะวันตกไม่ไกลนัก เขาช่องพรานมีถ้ำขนาดใหญ่ เรียกว่า ถ้ำพระนอน ซึ่งเต็มไปด้วย หินงอกหินย้อยงามแปลกตา อีกทั้งมีพระนอน และพระพุทธรูปกว่า 100 องค์รายรอบ มีพระพุทธรูป ปางไสยาสน์องค์ใหญ่ มีความยาวถึง 9 เมตรเศษ สูง 1 เมตรเศษ เศษ นักท่องเที่ยวสามารถเดิน ขึ้นสู่บนยอดเขาช่องพราน เพื่อนมัสการพระบรมธาตุบวรวิสุทธิเจดีย์ และด้านบนยอดเขานี้ยังสามารถชมทิวทัศน์ อันกว้างไกลจาก และชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า บนจุดชมวิวของยอดเขานี้
ภายในถ้ำ มีค้างคาวอาศัย อยู่เป็นจำนวนมาก ทุกวันในยามใกล้พลบค่ำ ชมค้างคาวเขาช่องพรานบินออกหา กินได้ในช่วง พลบค่ำประมาณเวลา 05.30 น. โมงเย็นเป็นต้นไป บรรดาค้างคาวูจำนวนมหาศาลราวร้อยล้านตัวจะ เคลื่อนตัว เป็นสายไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เป็นเวลากว่า 2 ชม. และจะกลับมายังบริเวณถ้ำแห่งนี้ก่อนอรุณรุ่ง เป็นภาพอันน่า ประทับใจซึ่งสามารถพบเห็นในทุก ๆ วัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อที่ ททท. ภาคกลาง เขต 2 โทร. 0-3247-1005-6
ภายในถ้ำ มีค้างคาวอาศัย อยู่เป็นจำนวนมาก ทุกวันในยามใกล้พลบค่ำ ชมค้างคาวเขาช่องพรานบินออกหา กินได้ในช่วง พลบค่ำประมาณเวลา 05.30 น. โมงเย็นเป็นต้นไป บรรดาค้างคาวูจำนวนมหาศาลราวร้อยล้านตัวจะ เคลื่อนตัว เป็นสายไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เป็นเวลากว่า 2 ชม. และจะกลับมายังบริเวณถ้ำแห่งนี้ก่อนอรุณรุ่ง เป็นภาพอันน่า ประทับใจซึ่งสามารถพบเห็นในทุก ๆ วัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อที่ ททท. ภาคกลาง เขต 2 โทร. 0-3247-1005-6
ฟาร์มแกะ ที่สวนผึ้งบล้อคไทยสบายดอทคอม เข้าประจำการแนะนำ สถานที่ท่องเที่ยว สวยงามในประเทสไทยเช่นเคย วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆ เปิดโลกทัศน์ สัมผัสธรรมชาติและวิถีชีวิตอันสงบ เรียบง่าย… “สวนผึ้ง” อำเภอเล็กๆ ในอ้อมกอดแห่งขุนเขา ชายแดนตะวันตก จังหวัดราชบุรี พาไปดูฟาร์มแกะ ที่รีสอร์ทน่ารักๆ ท่ามกลางขุนเขา แมกไม้ และธารน้ำ ที่ “เดอะ ซินเนอร์รี่ รีสอร์ท แอนด์ ฟาร์ม” สัมผัสบรรยากาศสไตล์นิวซีแลนด์
The Scenery Resort (เดอะ ซินเนอร์รี่ รีสอร์ท แอนด์ ฟาร์ม) เป็นรีสอร์ทในหุบเขา ติดลำน้ำภาชี เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อการพักผ่อนโดยเน้นความสงบ สบายและใกล้ชิดธรรมชาติ ตั้งอยู่ที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ขณะนี้ จำนวนบ้านพักที่เปิดให้บริการได้ทั้งหมดมี 7 หลัง คือ บ้านรูซี่ , บ้านแพงโกล่า , บ้านฮามาต้า , บ้านเมอริโน , บ้านคอร์ริเดล , บ้านคาทาดิน และบ้านบาร์บาโดส ซึ่งรองรับผู้เข้าพักได้รวม 24 ท่าน
ทุ่งหญ้าบนเนินเขา ปกคลุมด้วยอากาศเย็นสบาย มีเดอะซีนเนอร์รี่รีสอร์ท ซึ่งเป็นรีสอร์ทเล็กๆ ซ่อนตัวอยู่อย่างสงบ ดินแดนแห่งภูเขา ทุ่งหญ้า ฝูงแกะและลำธารใส บรรยากาศธรรมชาติ มีลำธารไหลผ่าน ทุ่งหญ้าเขียวสบายตา จุดเด่นของที่นี่คือ ฝูงแกะที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน และที่สำคัญ ห้องพักสไตล์เมอร์ดิเตอเรเนียนที่ชวนน่าพักผ่อน คือเสน่ห์ของ The Scenery ที่หาได้ยากในรีสอร์ทอื่น ถึงแม้ที่นี่จะเป็นรีสอร์ทเล็กๆ แต่การบริการที่ดีเยี่ยม ไม่ต่างจากรีสอร์ทหรูตามเมืองใหญ่ๆ ส่วนของห้องพักจะเป็นโซนส่วนตัว ทำให้บรรยากาศด้านใน เงียบสงบ การจัดสวนและต้นไม้ก็น่ารัก เก้าอี้นั่งสีแดงตัดกับสนามหญ้าสีเขียวๆ มีอยู่หลายๆ จุดในรีสอร์ท คงเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของรีสอร์ทที่ใครไปใครมาต้องมาถ่ายภาพที่เก้าอี้เหล่านี้
Posted on 07 September 2010 by harleydavidsons
บล้อคไทยสบายดอทคอม เข้าประจำการแนะนำ สถานที่ท่องเที่ยว สวยงามในประเทสไทยเช่นเคย วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆ เปิดโลกทัศน์ สัมผัสธรรมชาติและวิถีชีวิตอันสงบ เรียบง่าย… “สวนผึ้ง” อำเภอเล็กๆ ในอ้อมกอดแห่งขุนเขา ชายแดนตะวันตก จังหวัดราชบุรี พาไปดูฟาร์มแกะ ที่รีสอร์ทน่ารักๆ ท่ามกลางขุนเขา แมกไม้ และธารน้ำ ที่ “เดอะ ซินเนอร์รี่ รีสอร์ท แอนด์ ฟาร์ม” สัมผัสบรรยากาศสไตล์นิวซีแลนด์
ระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงอ.สวนผึ้งประมาณ 160 กม. ใช้เวลาในการขับรถไม่เกิน 2 ชั่วโมง เพื่อนๆ สามารถเดินทางแบบชิลล์ๆ ไปได้ 2 เส้นทางด้วยกัน คือ
1. ทางหลวงหมายเลข 4 (เส้นถนนเพชรเกษม) ผ่านพุทธมณฑล นครชัยศรี เมืองนครปฐม เมืองราชบุรี แล้วเลี้ยวขวาแถวเขางู ผ่าน อ.จอมบึง ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 3087 มุ่งหน้าสู่ อ.สวนผึ้ง
2. ทางหลวงหมายเลข 35 (เส้นถนนพระราม 2 – ธนบุรี-ปากท่อ) ผ่านสมุทรสาคร สมุทรสงคราม เลี้ยวขวาเข้า อ.ปากท่อ ผ่านเมืองราชบุรี เขาแก่นจันทร์ แล้วแยกซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 3208 มุ่งหน้าสู่ อ.สวนผึ้ง
The Scenery Resort (เดอะ ซินเนอร์รี่ รีสอร์ท แอนด์ ฟาร์ม) เป็นรีสอร์ทในหุบเขา ติดลำน้ำภาชี เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อการพักผ่อนโดยเน้นความสงบ สบายและใกล้ชิดธรรมชาติ ตั้งอยู่ที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ขณะนี้ จำนวนบ้านพักที่เปิดให้บริการได้ทั้งหมดมี 7 หลัง คือ บ้านรูซี่ , บ้านแพงโกล่า , บ้านฮามาต้า , บ้านเมอริโน , บ้านคอร์ริเดล , บ้านคาทาดิน และบ้านบาร์บาโดส ซึ่งรองรับผู้เข้าพักได้รวม 24 ท่าน
ทุ่งหญ้าบนเนินเขา ปกคลุมด้วยอากาศเย็นสบาย มีเดอะซีนเนอร์รี่รีสอร์ท ซึ่งเป็นรีสอร์ทเล็กๆ ซ่อนตัวอยู่อย่างสงบ ดินแดนแห่งภูเขา ทุ่งหญ้า ฝูงแกะและลำธารใส บรรยากาศธรรมชาติ มีลำธารไหลผ่าน ทุ่งหญ้าเขียวสบายตา จุดเด่นของที่นี่คือ ฝูงแกะที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน และที่สำคัญ ห้องพักสไตล์เมอร์ดิเตอเรเนียนที่ชวนน่าพักผ่อน คือเสน่ห์ของ The Scenery ที่หาได้ยากในรีสอร์ทอื่น ถึงแม้ที่นี่จะเป็นรีสอร์ทเล็กๆ แต่การบริการที่ดีเยี่ยม ไม่ต่างจากรีสอร์ทหรูตามเมืองใหญ่ๆ ส่วนของห้องพักจะเป็นโซนส่วนตัว ทำให้บรรยากาศด้านใน เงียบสงบ การจัดสวนและต้นไม้ก็น่ารัก เก้าอี้นั่งสีแดงตัดกับสนามหญ้าสีเขียวๆ มีอยู่หลายๆ จุดในรีสอร์ท คงเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของรีสอร์ทที่ใครไปใครมาต้องมาถ่ายภาพที่เก้าอี้เหล่านี้
นอกจากนี้ทุกปี ทางรีสอร์ทยังจัดกิจกรรมที่ชื่อว่า candle in the winter งานจะมีช่วงปลายปีหน้าหนาว บรรยากาศเป็นใจ รูปแบบของงานก็เป็นแบบกลางแจ้ง นั่งกองฟาง ฟังดนตรีแจ๊ส เคล้าบรรยากาศเทือกเขาตะนาวศรี สำหรับถ้าไปแบบคู่รักรับรองโรแมนมาก
ข้อมูลอำเภอสวนผึ้ง ตั้งอยู่บนพื้นที่สูง โอบล้อมด้วยขุนเขา ชิดชายแดนไทย-พม่า ประกอบด้วย 4 ตำบล คือ ตำบลสวนผึ้ง ตำบลป่าหวาย ตำบลตะนาวศรี และตำบลท่าเคย
ระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงอ.สวนผึ้งประมาณ 160 กม. ใช้เวลาในการขับรถไม่เกิน 2 ชั่วโมง เพื่อนๆ สามารถเดินทางแบบชิลล์ๆ ไปได้ 2 เส้นทางด้วยกัน คือ
1. ทางหลวงหมายเลข 4 (เส้นถนนเพชรเกษม) ผ่านพุทธมณฑล นครชัยศรี เมืองนครปฐม เมืองราชบุรี แล้วเลี้ยวขวาแถวเขางู ผ่าน อ.จอมบึง ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 3087 มุ่งหน้าสู่ อ.สวนผึ้ง
2. ทางหลวงหมายเลข 35 (เส้นถนนพระราม 2 – ธนบุรี-ปากท่อ) ผ่านสมุทรสาคร สมุทรสงคราม เลี้ยวขวาเข้า อ.ปากท่อ ผ่านเมืองราชบุรี เขาแก่นจันทร์ แล้วแยกซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 3208 มุ่งหน้าสู่ อ.สวนผึ้ง